อาการเจ็บลิ้นสัญญาณเตือนโรคอันตราย

อาการ เจ็บลิ้น เป็นหนึ่งในอาการที่หลายคนมักมองข้าม และไม่ทันได้สังเกตถึงผลกระทบของอาการนี้เท่าที่ควร เพราะนอกจากจะสร้างความรำคาญในการใช้ชีวิตที่เป็นผลข้างเคียงหลักของอาการ เจ็บลิ้น แล้ว อาการดังกล่าวยังอาจจะสามารถเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงโรคร้ายที่ผู้ป่วยจะพบเจอในอนาคตได้อีกด้วย

ผลข้างเคียงของการเจ็บลิ้น

ถึงแม้ว่าอาการระคายเคืองบริเวณลิ้นจะไม่ได้ส่งผลกับร่างกาย หรือการใช้ชีวิตอย่างชัดเจน แต่ก็มีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นตามมาได้หลากหลายอาการเช่นเดียวกัน ดังนี้

  • พูดลำบากมากขึ้น เนื่องจากขยับลิ้นได้ไม่สะดวก
  • ลิ้นรับรสชาติได้ไม่ดีเท่าแต่ก่อน ในบางกรณีอาจจะไม่สามารถรับรู้ถึงความแตกต่างของรสชาติได้เลยทีเดียว
  • ลิ้นเปลี่ยนสี และอาจมีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นบริเวณลิ้น
  • รู้สึกเจ็บทั่วทั้งลิ้น หรือบางส่วนของลิ้น
  • มีขุยหรือขนเกิดขึ้นที่ลิ้น
  • ลิ้นบวม

สาเหตุของอาการเจ็บลิ้น

มีหลากหลายสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บลิ้น แต่ส่วนมากแล้วจะเป็นสาเหตุที่เห็นได้ชัดเจน และสามารถหลีกเลี่ยงได้เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยกลับมา เจ็บลิ้น อีก

  1. แผลร้อนใน

เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุต้น ๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยส่วนมากรู้สึกเจ็บบริเวณลิ้น ร้อนในสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ภาวะความเครียดสูง หรือมีโฮโมนมีการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน อีกทั้งยังสามารถเกิดจากการรับประทานอาหารแล้วบาดลิ้น หรือการเผลอกัดลิ้นตัวเองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เจ็บลิ้น ได้อีกเช่นเดียวกัน

  1. รับประทานอาหารที่ร้อนจัด

การรับประทานอาหารที่ร้อนเกินไป ทำให้เกิดตุ่มพอง และทำให้มีอาการแสบบริเวณลิ้นได้ ในกรณีนี้จะยิ่งรู้สึกเจ็บมากเป็นพิเศษ หากเป็นแผลที่ใกล้กับฟันจะยิ่งรู้สึก เจ็บลิ้น เพิ่มขึ้นช่วงที่มีการใช้ฟันเคี้ยวอาหาร

  1. ผลลัพธ์จากการสูบบุหรี่

สำหรับผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ สารเคมีจากบุหรี่เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ลิ้นเกิดอาการระคายเคือง และทำให้เกิดอาการเจ็บได้ในที่สุด อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่เลิกบุหรี่แบบกะทันหันก็ทำให้ลิ้นเกิดผลข้างเคียง และรู้สึกเจ็บทั่วทั้งแผ่นลิ้นได้เช่นกัน

เจ็บลิ้น สัญญาณโรคอันตราย

ตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า อาการรู้สึกเจ็บที่บริเวณลิ้นได้สร้างความรำคาญในการใช้ชีวิตให้กับผู้ป่วยแล้ว และยังอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยบ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกายได้อีก แต่ไม่สามารถบอกถึงโรคที่จะเกิดขึ้นได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นเพียงการย้ำเตือนของความไม่ปกติของร่างกายแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งอาการเจ็บลิ้นที่อาจเข้าข่ายโรคต่าง ๆ มีดังนี้

โรคโลหิตจางจากการขาดแร่ธาตุและวิตามิน

การขาดธาตุเหล็ก โฟเลต สังกะสี หรือวิตามินบี 12 อาจทำให้เกิดอาการเจ็บลิ้นได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการเกิดตุ่ม หรือขุยบริเวณลิ้น เพราะการขาดวิตามิน และแร่ธาตุดังกล่าวทำให้เกิดโรคโลหิตจาง

กลุ่มอาการแสบร้อนในช่องปาก

ในกลุ่มนี้จะมีอาการแสบร้อนช่วงปลายลิ้น มักจะเกิดกับผู้ป่วยที่มีความเครียด และผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า

โรคไลเคน พลานัส (Lichen Planus)

กลุ่มคนไข้ประเภทนี้จะรู้สึกคันเนื้อคันตัวตลอดเวลา เพราะโรคไลเคน พลานัส เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ก่อให้เกิดผื่นคัน และทำให้ลิ้นมีปื้นสีขาว หรือในบางคนอาจจะเป็นปื้นสีแดง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้ในบริเวณที่ลิ้นเปลี่ยนสี

การติดเชื้อไวรัส

เช่น โรคเริม ที่ทำให้เกิดตุ่มสีใสบริเวณพื้นที่ที่ติดเชื้อ ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นบริเวณ ปาก, อวัยวะเพศ รวมไปถึงลิ้น นอกจากโรคเริมแล้ว การติดเชื้อไวรัสยังรวมถึงโรคมือเท้าปาก ที่จะมีตุ่ม ผื่น หรือแผลอักเสบได้นอกจากมือ, เท้า และปาก แต่ไวรัสยังสามารถลุกลามไปถึงลิ้นได้อีก

ภาวะลิ้นอักเสบชนิดโมลเลอร์ (Moeller’s Glossitis)

ภาวะนี้เกิดจากการขาดวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก ทำให้สภาพของลิ้นมีความเรียบผิดปกติ อีกทั้งยังทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บลิ้น และรู้สึกว่าขยับลิ้นได้ยากกว่าแต่เดิม

โรคเบเซ็ท (Behcet’s Disease)

เป็นโรคที่พบได้น้อยในปัจจุบัน โดยเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดในร่างกาย ลิ้นจึงเป็นอีกอวัยวะที่รู้สึกเจ็บปวดได้จากโรคนี้

อาการ เจ็บลิ้น เป็นเพียงหนึ่งในสัญญาณของโรคอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าว ควรที่จะสังเกตร่วมกับอาการอื่น ๆ เพื่อให้เข้าใจ และมั่นใจกับภาวะความผิดปกติของร่างกายได้อย่างแม่นยำ เพื่อที่จะได้ไปพบแพทย์เพื่อเข้ารักษาในกระบวนการถัดไป

ขอบคุณข้อมูลจาก rattinanhospital.com