มหัศจรรย์กับ 7 ประโยชน์ของ ถั่วพิสตาชิโอ

ถั่วพิสตาชิโอ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นเคย และไม่คุ้นเลยก็ว่าได้ สำหรับถั่วตระกูลนี้ สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้ยินชื่อของถั่วประเภทนี้มาก่อน ในบทความชิ้นนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จัก และเจาะลึกถึงประโยชน์ของถั่วพิสตาชิโอนี้กัน ซึ่งถั่วประเภทนี้จะมีลักษณะเปลือกแข็ง เม็ดด้านในสีเขียว มีราคาในตลาดที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับสรรพคุณดูดไขมันแล้วก็ถือได้ว่าสมราคา

7 ประโยชน์ของถั่วพิสตาชิโอ

  1. ช่วยบำรุงผิวพรรณ

เนื่องจากใน ถั่วพิสตาชิโอ มีวิตามินเอ และอีสูงที่ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ อีกทั้งยังช่วยในการเสริมภูมิต้านทาน และช่วยลดไขมัน ป้องกันการเกิดการแข็งตัวของเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ จัดได้ว่านอกจากช่วยบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายเสริมเข้าไปอีก

  1. ป้องกันโรคเบาหวาน

จากการศึกษาพบว่าถั่วชนิดนี้สามารถที่จะช่วยลดเบาหวานประเภท 2 ได้ เพราะ ถั่วพิสตาชิโอ มอบฟอสฟอรัสได้มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว ซึ่งฟอสฟอรัสจะช่วยในการควบคุมน้ำตาล และช่วยป้องกันโรคเบาหวาน

  1. ส่งเสริมระบบประสาท

วิตามินบี 6 ที่อยู่ในถั่วนี้ยังช่วยในการส่งเสริมระบบประสาทและสมอง จัดได้ว่าเป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับการส่งเสริมระบบประสาท เพราะวิตามินบี 6 ที่อยู่ในนี้เป็น Myelin ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของการถ่ายโอนระหว่างเส้นประสาท ทำให้การทำงานของสมองเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น

  1. เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน

สำหรับใครที่ป่วยบ่อย มีอาการไข้อ่อน ๆ อยู่เสมอ การได้รับประทาน ถั่วพิสตาชิโอ จะถือว่าเป็นตัวช่วยที่ทำหน้าที่ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันได้ดีทีเดียว เนื่องจากวิตามินบี 6 ที่อยู่ในถั่วมีบทบาทอย่างมากสำหรับการเพิ่มความสามารถของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายทนทานต่อเชื้อไวรัสและโรคภัยได้

  1. ช่วยในการลดน้ำหนัก

อีกหนึ่งกระแสที่เหล่าคนที่ต้องการลดความอ้วน มักจะมองถั่วประเภทนี้เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะเนื้อสัมผัสของถั่วชนิดนี้ทานง่าย เคี้ยวสนุก ที่สำคัญคือให้พลังงานได้ดี อีกทั้งด้วยสรรพคุณก่อนหน้าที่ได้อธิบายไป จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจว่าทำไม ถั่วพิสตาชิโอ ถึงเป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ อย่างแพร่หลาย

  1. ส่งเสริมการมองเห็น

ด้วยสารที่มีอยู่ในถั่วที่เรียกว่า Carotenoids ที่มีสรรพคุณในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยปกป้องเนื้อเยื่อในดวงตา ทำให้การรับประทานถั่วชนิดนี้เป็นการรักษาสภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพของดวงตาได้อีก ยิ่งไปกว่านั้นการรับประทานถั่วพิสตาซิโอจะช่วยลดความเสี่ยงอัตราการตาบอดและอีกหลากหลายโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา

  1. อุดมไปด้วยโปรตีนเข้มข้น

ถั่วพิสตาชิโอ 28 กรัมจะมีโปรตีนถึง 6 กรัม เมื่อเทียบกับสัดส่วน และน้ำหนักของถั่วแล้ว ถือได้ว่ามีโปรตีนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของพิสตาซิโอกันเลยทีเดียว นอกจากโปรตีนที่มีอยู่อย่างอัดแน่นแล้ว ยังมีกรดอะมิโนจำเป็น และกรดอะมิโนกึ่งจำเป็นในปริมาณสูงกว่าถั่วชนิดอื่น ๆ ความน่าสนใจของถั่วประเภทนี้คือ มีกรดอะมิโนแอลอาร์จินีน ที่ทำให้การไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดี และขยายหลอดเลือดให้กว้างขึ้น ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้การรับประทานถั่วพิสตาซิโอช่วยในเรื่อง การต่อสู้กับโรคโลหิตจางได้

ปริมาณที่ควรรับประทานต่อวัน

ถึงแม้ว่าถั่วชนิดนี้จะได้รับความนิยมจากสรรพคุณที่มีอยู่อย่างคับคั่งของถั่วพิสตาซิโอ แต่ไม่ควรบริโภคเกินวันละ 28 กรัม หรือ 49 เม็ด และที่สำคัญคือ หลีกเลี่ยงถั่วที่มีส่วนผสมของสารปรุงแต่งใด ๆ อย่างเกลือหรือน้ำตาล เพื่อให้สรรพคุณของถั่วได้ทำงานอย่างเต็มที่ ควรเก็บถั่วพิสตาชิโอในภาชนะที่ปิดมิดชิดแล้ววางไว้ในที่แห้ง หลีกเลี่ยงการวางไว้ในสถานที่ที่แสงเข้าถึง หรือชื้น

ทั้งหมดนี้เป็นภาพรวมและประโยชน์ของ ถั่วพิสตาชิโอ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันอยู่ในช่วงขณะนี้ ถึงแม้ว่าจะราคาค่อนข้างสูงสักเล็กน้อย จากการตรวจสอบราคาล่าสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 130 บาทต่อ 250 กรัม แต่เมื่อได้เห็นสรรพคุณ และความสามารถของถั่วพิสตาซิโอนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงต้องอยากลองหาซื้อเพื่อมาลองรับประทานกันแน่นอน อย่างไรก็ดีควรรับประทานในปริมาณที่พอดีแต่เพียงเท่านั้น หากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะไม่ได้ส่งผลดีกับร่างกาย